อินดี้สร้างปรากฏการณ์ 2/“ชายผู้ถูกฆ่า 5 หมื่นครั้ง” จุดประกายแรงบันดาลใจ การแสดงทรงพลังจน “ทอม ครูซ” ยังยอมแพ้


สารบัญ

  1. “ซามูไรทะลุมิติ” กวาดเสียงชมในเทศกาลหนัง คิดจากแรงบันดาลใจเล็ก ๆ สู่ความฝันยิ่งใหญ่
  2. โฆษณาเก่า กลายเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องใหม่
  3. “ชายผู้ถูกฆ่า 50,000 ครั้ง” จุดประกายบทซามูไรยุคใหม่
  4. ฟุคุโมโตะ: แรงบันดาลใจให้กับทุกคนในกองถ่าย
  5. แม้จากไป…แต่แรงบันดาลใจยังคงอยู่
  6. Q&A

“ซามูไรทะลุมิติ” กวาดเสียงชมในเทศกาลหนัง คิดจากแรงบันดาลใจเล็ก ๆ สู่ความฝันยิ่งใหญ่

ภาพยนตร์อินดี้แห่งปีของญี่ปุ่น “ซามูไรทะลุมิติ” เล่าเรื่องซามูไรจากยุคโบราณที่เดินทางข้ามเวลามาสู่ยุคปัจจุบัน KUBET และเริ่มต้นอาชีพใหม่ในฐานะนักแสดงในกองถ่ายหนังย้อนยุค

  • เปิดตัวในเทศกาล Golden Horse Fantastic Film Festival และคว้าอันดับ 3 จากคะแนนโหวตผู้ชม
  • ผู้กำกับ อาสึดะ จุนอิจิ ได้แรงบันดาลใจจากหนังอินดี้เรื่องดัง “One Cut of the Dead” ซึ่งใช้งบไม่ถึง 3 ล้านเยนแต่ทำรายได้ถล่มทลายถึง 3.1 พันล้านเยน
  • เขาตั้งใจสร้างผลงานที่ “แม้งบน้อยแต่โดนใจ” KUBET จึงเริ่มเขียนบทและวางโครงเรื่องจนกลายเป็น “ซามูไรทะลุมิติ”
หัวข้อรายละเอียด
ชื่อภาพยนตร์ซามูไรทะลุมิติ
แนวภาพยนตร์ซามูไรย้อนยุค + ไซไฟ
เรื่องย่อซามูไรจากยุคเอโดะทะลุมิติมายุคปัจจุบัน และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะนักแสดงกองถ่ายหนังย้อนยุค
เปิดตัวครั้งแรกเทศกาล Golden Horse Fantastic Film Festival
ผลโหวตผู้ชมอันดับ 3
แรงบันดาลใจจากOne Cut of the Dead (ใช้งบไม่ถึง 3 ล้านเยน ทำรายได้ 3.1 พันล้านเยน)
วิสัยทัศน์ผู้กำกับสร้างผลงานที่แม้งบน้อยแต่โดนใจ
ผู้กำกับอาสึดะ จุนอิจิ

โฆษณาเก่า กลายเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องใหม่

ซากุระ ยูโนะ นักแสดงและผู้ช่วยผู้กำกับ เผยว่า KUBETจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มาจากโครงการในเทศกาลหนัง Kyoto Historica International Film Festival

  • ผู้กำกับอาสึดะได้รับเชิญให้เสนอไอเดีย
  • เขาได้นำโครงเรื่องจากโฆษณาเก่าที่ ยาโกะโช โคจิ รับบทเป็นซามูไรที่ข้ามเวลามายังยุคปัจจุบัน มาต่อยอดเป็นโครงเรื่องของ “ซามูไรทะลุมิติ”

“ชายผู้ถูกฆ่า 50,000 ครั้ง” จุดประกายบทซามูไรยุคใหม่

KUBET หนึ่งในแรงบันดาลใจหลักของหนังเรื่องนี้ คือ ฟุคุโมโตะ เซย์โซ นักแสดงญี่ปุ่นผู้ล่วงลับ

  • มีประสบการณ์แสดงหนังย้อนยุคมากกว่า 50 ปี
  • มักรับบทเป็น “คนที่ถูกฆ่า” ในฉากดวลดาบ จนได้รับฉายา “ชายผู้ถูกฆ่า 5 หมื่นครั้ง”
  • เคยแสดงในฮอลลีวูดเรื่อง The Last Samurai ประกบคู่กับ ทอม ครูซ KUBETซึ่งถึงขั้นชื่นชมการแสดงของเขาและชวนไปร่วมงานต่อที่อเมริกา
  • แม้จะมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ฟุคุโมโตะกลับไม่เปลี่ยนแปลง KUBETเขายังคงแสดงบทเล็ก ๆ และภักดีต่อวงการหนังย้อนยุคญี่ปุ่นเสมอ

ฟุคุโมโตะ: แรงบันดาลใจให้กับทุกคนในกองถ่าย

ผู้กำกับอาสึดะแต่งบท “ซามูไรที่ข้ามเวลามาเป็นตัวประกอบที่ถูกฆ่า” KUBET เพื่อเป็นการ คารวะฟุคุโมโตะ

  • ก่อนเสียชีวิต ฟุคุโมโตะได้อ่านบทและสนับสนุนอย่างเต็มที่
  • แม้จะจากไปก่อนถ่ายทำ แต่เขายังคงเป็น “จิตวิญญาณหลัก” ของโปรเจกต์นี้

นักแสดงนำ ยามากุจิ มากิยะ  ยอมรับว่าเขาได้แรงบันดาลใจจากฟุคุโมโตะโดยตรง:

“ในเรื่อง ตัวละครของผมไม่ได้แค่ตกใจเมื่อมาถึงยุคใหม่ KUBET แต่เขาใช้หัวใจและสติสัมปชัญญะในการค้นหาตัวตนใหม่ ซึ่งฟุคุโมโตะคือภาพสะท้อนของแนวคิดนี้”

แม้จากไป…แต่แรงบันดาลใจยังคงอยู่

“แม้เขาจะเคยดังระดับโลก แต่ก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนความเรียบง่าย KUBET ยังคงรับบทคนที่ถูกฆ่าบนจอเพื่อรักษาเสน่ห์ของยุคสมัย และคิดเสมอว่าเขาจะช่วยวงการนี้ต่อไปได้อย่างไร”
— ยามากุจิ มากิยะ


“ซามูไรทะลุมิติ” จึงไม่ใช่แค่ภาพยนตร์สนุกสนานแนวย้อนยุค-ไซไฟ แต่ยังเป็นจดหมายรักถึงคนทำหนังที่อยู่เบื้องหลัง…ผู้ซึ่งแม้จะถูกฆ่าในจอหลายหมื่นครั้ง KUBET แต่กลับจุดไฟให้คนดูจดจำเขาตลอดไป

Q&A

คำถามที่ 1:
ภาพยนตร์ “ซามูไรทะลุมิติ” ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังอินดี้เรื่องใด?

คำตอบ:
ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังอินดี้เรื่อง “One Cut of the Dead” ซึ่งใช้งบต่ำแต่ประสบความสำเร็จอย่างมาก


คำถามที่ 2:
จุดเริ่มต้นของโครงเรื่อง “ซามูไรทะลุมิติ” มาจากอะไร?

คำตอบ:
มาจากโครงเรื่องโฆษณาเก่าที่ยาโกะโช โคจิ แสดงเป็นซามูไรที่ข้ามเวลามายังยุคปัจจุบัน ซึ่งผู้กำกับได้นำมาต่อยอดเป็นบทภาพยนตร์


คำถามที่ 3:
ใครคือนักแสดงที่เป็นแรงบันดาลใจหลักของหนังเรื่องนี้ และได้รับฉายาว่าอะไร?

คำตอบ:
ฟุคุโมโตะ เซย์โซ นักแสดงญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์แสดงย้อนยุคกว่า 50 ปี และได้รับฉายาว่า “ชายผู้ถูกฆ่า 5 หมื่นครั้ง”


คำถามที่ 4:
ฟุคุโมโตะ เซย์โซ เคยร่วมงานกับนักแสดงระดับฮอลลีวูดคนใด และมีผลอย่างไร?

คำตอบ:
เขาเคยร่วมงานกับทอม ครูซ ในหนัง The Last Samurai ซึ่งทอม ครูซชื่นชมการแสดงของเขาและชวนไปร่วมงานที่อเมริกา


คำถามที่ 5:
ยามากุจิ มากิยะ นักแสดงนำกล่าวถึงแรงบันดาลใจจากฟุคุโมโตะอย่างไร?คำตอบ:
ยามากุจิกล่าวว่าตัวละครของเขาในหนังสะท้อนแนวคิดการค้นหาตัวตนใหม่ด้วยหัวใจและสติสัมปชัญญะ ซึ่งเป็นภาพสะท้อนจากฟุคุโมโตะ และแม้ฟุคุโมโตะจะโด่งดังระดับโลก แต่เขาก็ยังรักษาความเรียบง่ายและภักดีต่อวงการหนังย้อนยุคญี่ปุ่นเสมอ



เนื้อหาที่น่าสนใจ:

Categories: