เรื่องราวในครอบครัว 5/กลับบ้านถ่ายหนัง เรียนรู้การ “ปล่อยวาง”

สารบัญ

  1. บทนำ
  2. การถ่ายทำที่บ้านเกิดเมืองจังฮวา
  3. งบประมาณและการลงทุน
  4. การเรียนรู้การ “ปล่อยวาง” ของผู้กำกับ
  5. การสนับสนุนจากครอบครัว
  6. Q&A

บทนำ

การถ่ายทำที่บ้านเกิดเมืองจังฮวา ภาพยนตร์ «เรื่องของครอบครัวฉัน» ของผู้กำกับหน้าใหม่ ปาน เค่อ-อิ่น พัฒนาต่อจากสั้นเรื่อง «พี่สาว» โดยคงนักแสดงต้นฉบับไว้ทั้งหมด KUBET และถ่ายทำที่บ้านเกิด เขตเช่อโถว เมืองจังฮวา เพื่อให้เรื่องราวมีความสมจริงและเต็มไปด้วยกลิ่นอายท้องถิ่น

ประเด็นรายละเอียดความสำคัญ/ข้อสังเกต
ผู้กำกับปาน เค่อ-อิ่นหน้าใหม่ พัฒนาต่อยอดจากสั้นเรื่อง «พี่สาว»
นักแสดงนักแสดงต้นฉบับทั้งหมดรักษาเคมีและความเข้ากันของตัวละคร
สถานที่ถ่ายทำบ้านเกิด เขตเช่อโถว เมืองจังฮวาเพิ่มความสมจริงและกลิ่นอายท้องถิ่นให้กับเรื่องราว
จุดเด่นของการถ่ายทำการใช้สถานที่จริงและทีมเดิมทำให้เรื่องราวมีความเรียลและเข้าถึงอารมณ์ผู้ชมได้ดี
ความต่อเนื่องจากสั้นรักษาองค์ประกอบสำคัญจากสั้นเรื่อง «พี่สาว»ทำให้ผู้ชมที่ติดตามสั้นสามารถเชื่อมโยงเรื่องราวได้ง่าย

การถ่ายทำที่บ้านเกิดเมืองจังฮวา

เจิ้ง โหย่วเจี๋ย ผู้ร่วมผลิตชี้ว่า การกลับมาถ่ายทำที่เมืองจังฮวา แม้มีข้อจำกัดด้านสถานที่ แต่ก็ทำให้ภาพยนตร์เหมือนเกิดจาก “ผืนดินของตัวเอง” ทีมงานและนักลงทุนมีความเห็นตรงกันถึงความสำคัญของการถ่ายทำในพื้นที่จริง KUBET และได้รับความช่วยเหลือจากทั้งภาครัฐและชาวบ้าน ทำให้สามารถใช้สถานที่ เช่น สถานีรถไฟเขตเช่อโถว และ โรงงานถุงเท้า ได้อย่างราบรื่น ปาน เค่อ-อิ่น เล่าว่า เขาเคยคิดจะถ่ายในบ้านของสั้นเรื่องเดิม แต่พื้นที่เล็กเกินไปสำหรับทีมงานขนาดใหญ่ จึงต้องหาสถานที่อื่น KUBET โชคดีที่ชุมชนและเพื่อนฝูงในพื้นที่ช่วยแนะนำ ทำให้พบบ้านที่เหมาะสมทั้งขนาดและบรรยากาศ

งบประมาณและการลงทุน

ภาพยนตร์มีงบประมาณรวมประมาณ 32 ล้านบาท (NT$3,200,000) โดย เซีย จวินเย่ ผู้ร่วมผลิต ระบุว่า หลังจากได้รับเงินสนับสนุนจาก กองทุนภาพยนตร์ในประเทศ 12 ล้านบาท ทีมงานเริ่มติดต่อผู้ลงทุน และโชคดีได้รับการสนับสนุนจาก สถาบันส่งเสริมเนื้อหาวัฒนธรรมไต้หวัน 10 ล้านบาท หนึ่งในเหตุผลที่การระดมทุนราบรื่น KUBET คือผลงานสั้นเรื่อง «พี่สาว» เคยได้รับรางวัลและสร้างความน่าสนใจให้กับนักลงทุน

การเรียนรู้การ “ปล่อยวาง” ของผู้กำกับ

ปาน เค่อ-อิ่น มีพื้นเพเป็น นักตัดต่อ การทำงานครั้งนี้เขาร่วมกับ หลี่ฮุ่ย ในการตัดต่อภาพยนตร์ เจิ้ง โหย่วเจี๋ย ชี้ว่า “ก่อนหน้านี้เขาตัดต่อด้วยมุมมองของนักตัดต่อ KUBET แต่ตอนนี้ในฐานะผู้กำกับ เขาต้องใช้มุมมองผู้กำกับร่วมกับนักตัดต่ออีกคน” ปานยอมรับว่า “เมื่อก่อนตัดต่อผมอยากควบคุมทุกจังหวะและอารมณ์ แต่การเป็นผู้กำกับทำให้ผมเข้าใจว่า ภาพยนตร์เป็นงานร่วมกัน ต้อง ‘ปล่อยวาง’ ให้คนอื่นเข้ามามีส่วนร่วม KUBET เพื่อให้ผลงานไปถึงระดับที่เหนือความคาดคิดของตัวเอง KUBET นี่คือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้มากที่สุดจากการสร้างภาพยนตร์ครั้งนี้”

การสนับสนุนจากครอบครัว

ภาพยนตร์นี้เป็นผลงานที่รากฐานจาก ครอบครัวและบ้านเกิด ล่าสุดมีการจัด รอบพิเศษที่เขตเช่อโถวเมืองจังฮวา KUBET โดยแม่ของปานก็เข้าร่วมด้วย ปานเล่าให้ฟังว่า “ก่อนหน้านี้ผมเล่าเรื่องราวภาพยนตร์ให้แม่ฟัง เธอบอกว่า ‘เรื่องนี้ต้องเข้าถึงผู้ชมและประสบความสำเร็จแน่’ แม่ให้พื้นที่และสนับสนุนผมมาตลอดKUBET จึงทำให้ผมมาถึงวันนี้ได้ การเป็นผู้กำกับทำให้ผมเห็นว่า การ ‘ปล่อยวาง’ สำคัญมาก KUBET แม่ของผมมักปล่อยให้ลูกได้โอกาสบินด้วยตัวเอง”

Q&A

1. คำถาม: ภาพยนตร์ «เรื่องของครอบครัวฉัน» ถ่ายทำที่ใด และทำไมผู้กำกับถึงเลือกสถานที่นี้?
คำตอบ: ถ่ายทำที่บ้านเกิด เขตเช่อโถว เมืองจังฮวา เพื่อให้เรื่องราวมีความสมจริงและเต็มไปด้วยกลิ่นอายท้องถิ่น

2. คำถาม: การถ่ายทำในพื้นที่จริงมีประโยชน์อย่างไร?
คำตอบ: ทำให้ภาพยนตร์เหมือนเกิดจาก “ผืนดินของตัวเอง” และสามารถใช้สถานที่จริง เช่น สถานีรถไฟเขตเช่อโถว และโรงงานถุงเท้า ได้อย่างราบรื่น พร้อมได้รับความช่วยเหลือจากชุมชนและภาครัฐ

3. คำถาม: งบประมาณรวมของภาพยนตร์เท่าไหร่ และได้มาจากแหล่งใดบ้าง?
คำตอบ: งบประมาณรวมประมาณ 32 ล้านบาท (NT$3,200,000) ได้เงินสนับสนุนจากกองทุนภาพยนตร์ในประเทศ 12 ล้านบาท และสถาบันส่งเสริมเนื้อหาวัฒนธรรมไต้หวัน 10 ล้านบาท

4. คำถาม: ผู้กำกับปาน เค่อ-อิ่น เรียนรู้อะไรจากการทำงานร่วมกับนักตัดต่อในฐานะผู้กำกับ?
คำตอบ: เรียนรู้การ “ปล่อยวาง” ให้คนอื่นเข้ามามีส่วนร่วมในงาน เพื่อให้ภาพยนตร์ไปถึงระดับที่เหนือความคาดคิดของตัวเอง

5. คำถาม: การสนับสนุนของครอบครัวมีผลต่อการสร้างภาพยนตร์อย่างไร?
คำตอบ: แม่ของปานให้พื้นที่และสนับสนุนมาตลอด ทำให้ปานมั่นใจและสามารถสร้างภาพยนตร์ได้สำเร็จ พร้อมเข้าใจความสำคัญของการปล่อยให้ลูกมีอิสระในการทำงาน



เนื้อหาที่น่าสนใจ:

Categories: