ซีรีส์ไต้หวันเปิดตลาดใหม่ 5/บทบาทตัวละครข้ามเวลายาวนาน 20 ปี โจวหยูหมิน ถ่ายทอดความเปลี่ยนแปลงผ่านสายตา


สารบัญ

  1. บทนำ
  2. บทบาทข้ามเวลา 20 ปี ท้าทายการแสดงด้วยความเปลี่ยนแปลงของจิตใจ
  3. สายตาเป็นกุญแจสำคัญในการถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละคร
  4. ถ่ายทำครอบคลุม 6 เมือง และ 107 ฉาก สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย
  5. ครั้งแรกของซีรีส์ไต้หวันที่ใช้เทคนิคลดวัยผ่านภาพเอฟเฟกต์อย่างครบวงจร
  6. การแสดงหลากมิติผสานเทคโนโลยี ถ่ายทอดช่วงชีวิตและจิตใจที่ต่างกันของตัวละคร
  7. Q&A

บทนำ

ซีรีส์ “ระยะห่างระหว่างเรากับความชั่วร้าย ภาค 2” สานต่อจิตวิญญาณจากภาคแรก ผ่านโครงข่ายตัวละครที่ซับซ้อนและเรื่องราวหลายเส้นทาง ชวนผู้ชมมองเห็นความขัดแย้งที่ซ่อนอยู่ในมุมต่าง ๆ ของสังคม และเปิดเผยความยุ่งเหยิงทางอารมณ์ของหกครอบครัว KUBETผ่านเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ นักแสดงนำประกอบด้วย (โจวหยูหมิน),(เสวี่ยสือลิง), (หยางกุ้ยมุ่ย),(เซียซินอิง) และ (อวี๋จือหยู) เป็นต้น (ภาพจาก CATCHPLAY)

หัวข้อรายละเอียด
ชื่อซีรีส์ระยะห่างระหว่างเรากับความชั่วร้าย ภาค 2
เนื้อหาหลักสานต่อจิตวิญญาณจากภาคแรก ผ่านเครือข่ายตัวละครที่ซับซ้อน และเรื่องราวหลายเส้นทาง
ธีมหลักสะท้อนความขัดแย้งทางสังคม และเปิดเผยความยุ่งเหยิงทางอารมณ์ของหกครอบครัว
เหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ เป็นจุดเชื่อมโยงเรื่องราวของตัวละคร
นักแสดงนำโจวหยูหมิน เสวี่ยสือลิง หยางกุ้ยมุ่ย เซียซินอิง อวี๋จือหยู
ที่มาภาพจาก CATCHPLAY

บทบาทข้ามเวลา 20 ปี ท้าทายการแสดงด้วยความเปลี่ยนแปลงของจิตใจ

โจวหยูหมิน รับบทเป็นจิตแพทย์ตัวเอกของเรื่อง KUBET บทบาทนี้มีช่วงเวลาข้ามไปถึง 20 ปี ตั้งแต่นักศึกษาหนุ่มไปจนถึงหมอวัยกลางคน ถ่ายทอดการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร ผู้ผลิต (หลินอวี่หลิง) เผยว่า เมื่อได้กำหนดรูปแบบบทบาทจิตแพทย์นี้แล้ว KUBET คนแรกที่นึกถึงคือโจวหยูหมิน ทั้งสองฝ่ายเริ่มพูดคุยกันก่อนถ่ายทำถึง 1 ปี โจวหยูหมินเต็มใจและกระตือรือร้นที่จะรับบทที่มีมิติซับซ้อนนี้ พร้อมประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทีมงานตลอดการพัฒนาเนื้อเรื่อง KUBET

สายตาเป็นกุญแจสำคัญในการถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละคร

โจวหยูหมินเคยกังวลว่า การย้อนเวลาไป 20 ปีก่อน KUBET เพื่อแสดงตัวละครในวัยเยาว์ เขาอาจไม่สามารถสื่ออารมณ์ผ่านสายตาได้อย่างที่ต้องการ จึงได้พูดคุยอย่างลึกซึ้งกับผู้กำกับ (หลินจวินหยาง) ผู้กำกับเล่าว่า มีฉากสำคัญระหว่างโจวหยูหมินและเซียซินอิง ที่เซียซินอิงเตือนให้โจวหยูหมินรับผิดชอบต่อภารกิจช่วยเหลือผู้อื่น แม้ในกองถ่ายจะถ่ายซ้ำหลายครั้ง KUBETแต่ผู้กำกับรู้สึกว่ายังขาดพลังทางอารมณ์ เมื่อเข้าห้องตัดต่อกลับพบว่า โจวหยูหมินถ่ายทอดความเปลี่ยนแปลงภายในตัวละครผ่านประกายเล็กๆ ในสายตา ซึ่งทำให้บทนี้มีชีวิตและลึกซึ้งมากขึ้น KUBET

ถ่ายทำครอบคลุม 6 เมือง และ 107 ฉาก สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย

การถ่ายทำ “ระยะห่างระหว่างเรากับความชั่วร้าย II” กระจายครอบคลุม 6 เมืองทั่วไต้หวัน รวมกว่า 107 ฉาก ทีมงานออกแบบฉากและตกแต่งสถานที่อย่างละเอียด KUBET เพื่อสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของสังคมไต้หวันในช่วง 20 ปี ทั้งป้ายจราจร รูปแบบถนน และป้ายร้านค้า ถูกเก็บข้อมูลและนำมาสร้างสรรค์อย่างสมจริง

ครั้งแรกของซีรีส์ไต้หวันที่ใช้เทคนิคลดวัยผ่านภาพเอฟเฟกต์อย่างครบวงจร

เพื่อให้ตัวละครดูเหมือนช่วงวัยหนุ่มสาว ซีรีส์นี้ใช้เทคนิคลดวัย (De-Aging Visual Effects) อย่างเต็มรูปแบบ ผู้กำกับ กล่าวว่า ในปีหลังๆ วงการภาพยนตร์ใช้เทคนิคนี้ช่วยปรับใบหน้าให้นักแสดงดูเด็กลง ใน “ระยะห่างฯ II” มีฉากที่ใช้เทคนิคนี้ถึง 200 ช็อต จาก 10 ตัวละครใน 2 ตอน ถือเป็นครั้งแรกของซีรีส์ไต้หวันที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้

ก่อนถ่ายทำ ผู้กำกับได้เจรจากับบริษัทเอฟเฟกต์หลายครั้ง รวมถึงศึกษางานภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง “The Irishman” และสอบถามราคาจากบริษัทเอฟเฟกต์ระดับโลกKUBET แต่สุดท้ายต้องยกเลิกแผนใช้เทคนิคระดับสูงสุด เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องงบประมาณและเวลา

การแสดงหลากมิติผสานเทคโนโลยี ถ่ายทอดช่วงชีวิตและจิตใจที่ต่างกันของตัวละคร

เพื่อให้เห็นความแตกต่างของอายุ ทีมงานจะติดจุดติดตาม (Tracking Points) บนใบหน้าของนักแสดงระหว่างถ่ายทำ ปรับแต่งทรงผมและสไตล์เล็กน้อย ใช้แสงและเทคนิคแต่งหน้าเพื่อเปลี่ยนรูปหน้า หลังถ่ายทำ ทีมงานเอฟเฟกต์จะปรับแต่งเพิ่ม เช่น การเพิ่มน้ำหนักหรือลดน้ำหนักตามความเหมาะสมของตัวละครในแต่ละช่วงชีวิต

นอกจากนี้ นักแสดงยังต้องใช้ทักษะการแสดงและภาษากายเพื่อสื่อถึงบุคลิกและอารมณ์ในแต่ละช่วงเวลา เช่น โจวหยูหมินที่แสดงบทจิตแพทย์ในสองตอนแรกมีภาพลักษณ์ที่ทุกข์ระทม KUBET ส่วนเมื่อลำดับเวลาย้อนกลับเป็นวัยนักศึกษา เขาก็สวมบทหนุ่มสดใส เปี่ยมด้วยพลังแห่งวัยเยาว์ ถ่ายทอดความเปลี่ยนแปลงของชีวิตตัวละครได้อย่างสมจริงและมีมิติ

Q&A

คำถาม 1:
โจวหยูหมินรับบทอะไรในซีรีส์ “ระยะห่างระหว่างเรากับความชั่วร้าย II” และบทบาทนี้มีช่วงเวลาข้ามกี่ปี?

คำตอบ:
โจวหยูหมินรับบทเป็นจิตแพทย์ตัวเอกของเรื่อง โดยบทบาทนี้ข้ามช่วงเวลายาวนานถึง 20 ปี ตั้งแต่วัยนักศึกษาหนุ่มจนถึงหมอวัยกลางคน


คำถาม 2:
โจวหยูหมินมีความกังวลเกี่ยวกับการแสดงบทบาทข้ามเวลาอย่างไร และแก้ไขอย่างไร?

คำตอบ:
เขากังวลว่าอาจไม่สามารถสื่ออารมณ์ผ่านสายตาในช่วงวัยเยาว์ได้อย่างที่ต้องการ จึงพูดคุยอย่างลึกซึ้งกับผู้กำกับ และได้รับคำแนะนำจนถ่ายทอดความเปลี่ยนแปลงภายในตัวละครผ่านประกายในสายตาได้อย่างลึกซึ้ง


คำถาม 3:
การถ่ายทำซีรีส์นี้ครอบคลุมกี่เมืองและกี่ฉาก?

คำตอบ:
การถ่ายทำกระจายครอบคลุม 6 เมืองทั่วไต้หวัน รวมกว่า 107 ฉาก


คำถาม 4:
ซีรีส์นี้ใช้เทคนิคพิเศษอะไรเป็นครั้งแรกในวงการซีรีส์ไต้หวัน และมีฉากที่ใช้เทคนิคนี้กี่ช็อต?

คำตอบ:
ใช้เทคนิคลดวัย (De-Aging Visual Effects) อย่างครบวงจรเป็นครั้งแรกในซีรีส์ไต้หวัน มีฉากที่ใช้เทคนิคนี้ถึง 200 ช็อตใน 10 ตัวละครของ 2 ตอน


คำถาม 5:
ทีมงานและนักแสดงทำอย่างไรเพื่อให้แสดงความแตกต่างของช่วงวัยและบุคลิกตัวละครได้อย่างสมจริง?

คำตอบ:
ทีมงานติดจุดติดตาม (Tracking Points) บนใบหน้า ปรับแต่งทรงผม สไตล์ แสง และแต่งหน้า พร้อมกับนักแสดงใช้ทักษะการแสดงและภาษากายเพื่อสื่อถึงบุคลิกและอารมณ์ในแต่ละช่วงเวลา



เนื้อหาที่น่าสนใจ:

Categories: