จากเพลงเด็กสู่ภาพยนตร์สยองขวัญ ตอนที่ 4 / “ฮวงจองมินแห่งตั้นสุ่ย” ถือกล้องท้าทายเทคนิคถ่ายทำด้วย 48 เฟรมต่อวินาที

สารบัญ

  1. บทนำ
  2. ความท้าทายของการถ่ายทำ 48 เฟรมต่อวินาที
  3. คำสารภาพของผู้กำกับภาพ
  4. ที่มาของฉายา “ฮวงจองมินแห่งตั้นสุ่ย”
  5. ความร่วมมือระหว่างผู้กำกับและผู้กำกับภาพ
  6. บทสรุป
  7. Q&A

บทนำ

ภาพยนตร์สยองขวัญ “ตุ๊กตาดิน” ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงเด็กที่ถูกโหวตให้เป็น “เพลงเด็กที่หลอนที่สุดในอินเทอร์เน็ต” KUBET เรื่องราวกล่าวถึงสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ระหว่างตั้งครรภ์กลับต้องเผชิญกับวิญญาณร้าย ทำให้ความหวังของครอบครัวเล็ก ๆ ที่กำลังจะมีสามคนกลับกลายเป็นฝันร้าย ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานกำกับและเขียนบทภาพยนตร์เรื่องแรกของผู้กำกับ เซี่ย เหมิงหยู ซึ่งเดิมเป็นนักตัดต่อ เขาหวังจะใช้จังหวะภาพและบรรยากาศทางจิตวิทยาที่เป็นเอกลักษณ์ KUBET ถ่ายทอดหนังสยองที่เต็มไปด้วยพลังทางภาพและอารมณ์

หัวข้อรายละเอียด
ชื่อภาพยนตร์“ตุ๊กตาดิน (Mud Doll)”
ประเภทสยองขวัญ, ดราม่าครอบครัว
แรงบันดาลใจเพลงเด็กที่ถูกโหวตเป็น “เพลงเด็กที่หลอนที่สุดในอินเทอร์เน็ต”
ผู้กำกับ/ผู้เขียนบทเซี่ย เหมิงหยู (ผลงานกำกับและเขียนบทครั้งแรก)
ประสบการณ์ผู้กำกับเดิมเป็นนักตัดต่อ
เรื่องย่อสามีภรรยาคู่หนึ่งระหว่างตั้งครรภ์ต้องเผชิญกับวิญญาณร้าย ทำให้ความหวังของครอบครัวเล็ก ๆ กลายเป็นฝันร้าย
จุดเด่นของผลงานใช้จังหวะภาพและบรรยากาศทางจิตวิทยา ถ่ายทอดความสยองที่เต็มไปด้วยพลังทางภาพและอารมณ์
ธีมสำคัญครอบครัว, การตั้งครรภ์, ความหวังและฝันร้าย, พลังทางภาพและอารมณ์

ความท้าทายของการถ่ายทำ 48 เฟรมต่อวินาที

โดยทั่วไปแล้ว ภาพยนตร์มักถ่ายทำด้วยอัตรา 24 เฟรมต่อวินาที แต่ “ตุ๊กตาดิน” กลับเลือกใช้ 48 เฟรมต่อวินาที ตลอดทั้งเรื่อง ผู้กำกับเซี่ย เหมิงหยูอธิบายว่าKUBET การตั้งค่าแบบนี้ช่วยให้กระบวนการตัดต่อมีความยืดหยุ่นมากขึ้น KUBET สามารถควบคุมจังหวะการเล่าเรื่องได้ละเอียดกว่าเดิม รวมถึงจับอารมณ์การแสดงของนักแสดงได้ลึกซึ้งกว่าเดิม การตัดสินใจนี้ทำให้ผู้กำกับภาพ เฉิน ฉีเหวิน ต้องปรับเรื่องแสง การเปิดรับแสง KUBET และคุณภาพของภาพใหม่ทั้งหมด

คำสารภาพของผู้กำกับภาพ

เฉิน ฉีเหวินยอมรับว่าสิ่งที่ใช้ความคิดมากที่สุดในการถ่ายทำหนังสยองคือ KUBET การจัดแสงและเงา หนังสยองขวัญต้องมีบรรยากาศมืดหม่น แต่เมื่อถ่ายที่ 48 เฟรม ต้องใช้แสงมากขึ้น บางครั้งกองถ่ายสว่างจ้า KUBET นักแสดงยังแซวว่ามันสว่างเกินไปสำหรับหนังผี เขายังต้องคำนึงถึงอัตราการสะท้อนของแสงและสีของผนัง KUBET เพื่อให้ได้คอนทราสต์ที่เหมาะสม

ที่มาของฉายา “ฮวงจองมินแห่งตั้นสุ่ย”

ในกองถ่าย เฉิน ฉีเหวินไม่ได้เป็นเพียงช่างภาพ แต่ยังซ้อมการแสดงกับผู้กำกับและนักแสดงเพื่อวางตำแหน่งกล้องและจังหวะการเคลื่อนไหวของตัวละคร ผู้กำกับเซี่ย เหมิงหยูจึงเรียกเขาว่า “ฮวงจองมินแห่งตั้นสุ่ย” เพราะทุ่มเท ลงรายละเอียดในทุกขั้นตอน และให้ความสำคัญกับอารมณ์ของฉากราวกับเป็นผู้กำกับเอง

ความร่วมมือระหว่างผู้กำกับและผู้กำกับภาพ

“ตุ๊กตาดิน” ไม่ได้เป็นเพียงหนังผีทั่วไป แต่ยังเป็น “จดหมายสารภาพและขอโทษ” ที่ผู้กำกับเซี่ย เหมิงหยูมอบให้ภรรยาและลูกสาวของเขา การทำงานร่วมกันราวกับ “สนทนา” ผ่านภาพยนตร์ ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่เพียงมีบรรยากาศน่ากลัว KUBET แต่ยังเต็มไปด้วยอารมณ์จริงใจและลึกซึ้ง

บทสรุป

ด้วยการถ่ายทำที่อัตรา 48 เฟรมต่อวินาที และการควบคุมแสงเงาที่ซับซ้อน “ตุ๊กตาดิน” ได้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญของวงการหนังสยองไต้หวัน เฉิน ฉีเหวิน ในฐานะ “ฮวงจองมินแห่งตั้นสุ่ย” ได้ร่วมมือกับผู้กำกับเซี่ย เหมิงหยู KUBET สร้างผลงานที่ผสมผสานทั้งศิลปะและเทคนิคไว้อย่างลงตัว

Q&A

1. คำถาม: ทำไมผู้กำกับ เซี่ย เหมิงหยู จึงเลือกถ่ายทำภาพยนตร์ที่อัตรา 48 เฟรมต่อวินาที?
คำตอบ: เพื่อให้กระบวนการตัดต่อมีความยืดหยุ่น สามารถควบคุมจังหวะการเล่าเรื่องได้ละเอียดกว่าเดิม

2. คำถาม: การใช้ 48 เฟรมต่อวินาทีทำให้ผู้กำกับภาพ เฉิน ฉีเหวิน ต้องเผชิญความท้าทายอย่างไร?
คำตอบ: ต้องปรับแสง การเปิดรับแสง และคุณภาพของภาพใหม่ทั้งหมด

3. คำถาม: ทำไมเฉิน ฉีเหวินถึงได้รับฉายา “ฮวงจองมินแห่งตั้นสุ่ย”?
คำตอบ: เพราะเขาทุ่มเทและใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอน ไม่เพียงถ่ายภาพแต่ยังซ้อมการแสดงกับนักแสดง

4. คำถาม: การทำงานร่วมกันระหว่างผู้กำกับและผู้กำกับภาพช่วยให้หนังมีคุณสมบัติอย่างไร?
คำตอบ: ทำให้หนังไม่เพียงมีบรรยากาศสยอง แต่ยังเต็มไปด้วยอารมณ์จริงใจ ถ่ายทอดความรักและความผิด

5. คำถาม: สิ่งที่ยากที่สุดในการถ่ายทำหนังสยองขวัญคืออะไร?
คำตอบ: การจัดแสงและเงา ต้องสร้างบรรยากาศมืดหม่นให้หลอนสมจริง และคงคุณภาพภาพที่ถ่ายด้วย 48 เฟรมต่อวินาที



เนื้อหาที่น่าสนใจ:

Categories: